วันเสาร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2551

การไหว้ครูและครอบประสิทธิ์ประสาทวิชาดนตรีไทย ของ ครูมนตรี ตราโมท

.....
.....ตั้งจิตอัญชลิตเบื้อง.........บาทบำ บวงเฮย
องค์พระวิศุกรรม...................เทพไท้
ผู้ทรงสฤษฏิ์เครื่องสัม..........ฤทธิ์ทั่ว ถ้วนแล
สอนสั่งปวงมนุษย์ให้...........รอบรู้เริงรำ ร้องแฮ

.....จิตนำโน้มเกศก้ม............ชุลีกร
นบพระปัญจสิขร..................ปกเกล้า
ทรงพิณดีดสุนทร.................กล่อมขับ
แม้พระสรรเพชญ์เจ้า............สดับซร้องทรงชม


.....ประนมหัตถ์มนัสโน้ม.......คำนับ
องค์พระปรคนธรรพ..............ครูเถ้า
สอนสั่งดุริยศัพท์..................สังคีต
ถือว่าประหนึ่งเจ้า.................ใหญ่พ้องคนธรรพ์


ครูมนตรี ตราโมท ผู้ประพันธ์


การไหว้ครูนั้น ไทยเรามักจะปฏิบัติกันทุกอย่างไม่ว่าจะประกอบกิจกรรมกันอย่างไหน คนไทยเรามั่นในความกตัญญูกตเวทีต่อบุพการีเป็นนิสัย โดยเฉพาะครูบาอาจารย์ไม่ว่าวิชาใดเรามักจะเคารพบูชาระลึกถึงคุณานุคุณ ถ้ามีโอกาสที่จะตอบแทนบุญคุณได้ก็มักจะกระทำเสมอ การกระทำที่เป็นการสนองพระคุณนั้นอาจกระทำได้ต่างๆตามฐานะและโอกาส อาจช่วยเหลือด้วยเงินทอง ช่วยเหลือการงานหรือปฏิบัติ หากครูได้สิ้นชีพไปแล้วก็ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ หรือเชิดชูเกียรติคุณในสิ่งที่ครูได้กระทำไว้ให้แพร่หลาย เป็นต้น ที่กล่าวมานี้เป็นกตเวทิคุณที่ศิษย์กระทำด้วยความกตัญญูในวิชาทั่วๆไป แต่โดยเฉพาะวิชาที่เป็นศิลปะ การกระทำกตเวทิคุณยังแผ่ออกไปถึงเทพเจ้าที่วิชานั้นถือว่าเป็นครูบาอาจารย์ด้วย เพราะฉะนั้นศิษย์ที่เรียนวิชาศิลปะจึงยังมีกตเวทิคุณอีกอย่างหนึ่งที่เรียกว่า

“ไหว้ครู”

พิธีไหว้ครูนี้ ศิลปะประเภทหนึ่ง ก็มีพิธีการไปอย่างหนึ่ง แตกต่างกันไปตามลักษณะศิลปวิทยาการนั้นๆ

พิธีไหว้ครู


การไหว้ครูของดนตรีไทยนั้นมีหลายอย่าง ถ้าเป็นการประกอบพิธีไหว้ครูที่เป็นพิธีรีตอง มีเครื่องสังเวย มีครูผู้เป็นหัวหน้าอ่านโองการตามแบบแผนจะต้องทำในวันพฤหัสบดีเท่านั้น

เพราะถือว่าพระพฤหัสบดีเป็นครูทั่วทุกวิชา

เนื่องจากไทยเราเป็นพุทธมามกะ พิธีไหว้ครูจึงมักเริ่มด้วยพิธีสงฆ์ก่อน
คือในวันพุธตอนเย็น จะมีพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์
รุ่งเช้าวันพฤหัสบดีถวายอาหารบิณฑบาต

เมื่อพระสงฆ์เสร็จภัตกิจแล้วจึงเริ่มพิธีไหว้ครู
สถานที่ประกอบพิธีไหว้ครูควรให้มีที่กว้างพอที่ศิษย์และผู้ร่วมพิธีจะนั่ง
สิ่งที่จะตั้งสำหรับไหว้จะต้องมีที่ตั้งพระพุทธรูปและเครื่องบูชาพร้อมไว้ทางหนึ่ง

ส่วนอีกทางหนึ่งจัดตั้งเครื่องดนตรีไทยต่างๆให้เป็นระเบียบและสวยงาม จะต้องมีตะโพนลูกหนึ่งตั้งอยู่ด้วย เพราะในทางดนตรีไทยถือว่าตะโพนสมมติแทนองค์พระปรคนธรรพ

แต่ถ้าจะมีโขนตั้งด้วยก็ได้ หน้าโขนที่ควรจะตั้งคือ

หน้าฤาษี พระปรคนธรรพ พระวิสสุกรรม พระปัญจสีขร พระพิราพ

แต่ถ้าจะเพิ่มหน้าพระอิศวร พระนารายณ์ พระพรหม พระคเณศร์ อีกด้วยก็ยิ่งดี

ส่วนเครื่องบูชากระยาบวช ก็มีดอกไม้ ธูป เทียน หัวหมู เป็ด กุ้ง ปลา บายศรีปากชาม ขนมต้มแดง ต้มขาว ผลไม้ต่างๆ หากว่าในพิธีนั้นไหว้พระพิราพด้วยก็จะต้องมีเครื่องดิบอีกชุดหนึ่ง

อีกอย่างหนึ่งคือ ขันกำนล ซึ่งมีขันล้างหน้าใส่ดอกไม้ธูปเทียน ผ้าขาว หรือผ้าเช็ดหน้า และเงินกำนล ซึ่งโบราณใช้ ๖ บาท

ถ้าจะมีปี่พาทย์บรรเลงเพลงหน้าพาทย์ประกอบด้วยก็ได้

ครูผู้ทำพิธีจะต้องนุ่งขาวห่มขาว เมื่อได้จุดธูปเทียนบูชาเสร็จแล้วครูจะทำน้ำมนต์ ในขณะนั้นศิษย์และผู้ร่วมพิธีจุดธูปเทียนบูชาอธิษฐานตามแต่ประสงค์
แล้วครูผู้ทำพิธีจะเริ่มกล่าวโองการนำให้ผู้ร่วมพิธีว่าตาม ซึ่งเริ่มด้วยบูชาพระรัตนตรัยและไหว้ครูบาอาจารย์ บิดามารดา ขอพรต่างๆตามแบบแผน ซึ่งแต่ละครูแต่ละอาจารย์อาจผิดแผกแตกต่างกันไปบ้าง

แล้วปี่พาทย์จะบรรเลงเพลงหน้าพาทย์ตามที่ครูผู้กระทำพิธีจะเรียก
ต่อจากนั้นก็กล่าวถวายเครื่องสังเวยแล้วเว้นระยะสักครู่จึงได้กล่าวลาเครื่องสังเวย
ต่อจากนั้นครูผู้เป็นประธานก็จะประพรมน้ำมนต์และเจิมเครื่องดนตรีและหน้าโขนต่างๆจนครบถ้วน
หลังจากนั้นจึงจะประพรมน้ำมนต์และเจิมให้แก่ศิษย์และผู้ร่วมพิธี เป็นอันเสร็จการไหว้ครู


พิธีครอบ


หลังจากพิธีไหว้ครูแล้วจึงจะถึงพิธีครอบซึ่งจะทำติดต่อกันไป
คำว่า “ครอบ”นี้หมายถึง การประสิทธิ์ประสาทวิทยาการหรืออนุมัติให้เริ่มเรียนวิชาในขั้นนั้นๆได้ ในศิลปะดนตรีไทย ถือว่าปี่พาทย์ เป็นหลักสำคัญของดนตรีทั้งหลายจึงครอบด้วยเครื่องดนตรีปี่พาทย์
การครอบของการเรียนปี่พาทย์มีขั้นตอนเป็นลำดับไปเหมือนการเรียนวิชาสามัญ เป็นประถม มัธยม และอุดม
วิธีการครอบ ศิษย์จะนำขันกำนลเข้าไปหาครูผู้ทำพิธี ส่งขันกำนลให้ครูและถือไว้ก่อนจนกว่าครูจะว่าคำประสิทธิ์ประสาทจบจึงปล่อยมือ แล้วครูจะทำพิธีครอบตามขั้นตอนที่จะเรียน โดยจับมือให้ตีฆ้องวงใหญ่และต่อเพลงในขั้นนั้นไปจนจบเพลงและสามารถจะไปปฏิบัติเครื่องดนตรีอย่างอื่นได้ทั่วๆไป ไม่ว่าจะเป็นระนาด ปี่ ตะโพน กลอง
ส่วนการครอบเครื่องดนตรีอย่างอื่น เช่น สีซอ ดีดจะเข้ เป่าขลุ่ย เหล่านี้ ตลอดจนการขับร้องด้วย สิ่งใดพอจะจับมือได้ ครูอาจารย์จะจับมือให้สีหรือดีดก็ได้ โดยใช้เพลงประเภทที่เครื่องดนตรีนั้นใช้บรรเลง หรือจะใช้ฉิ่งครอบที่ศีรษะของศิษย์ผู้นั้นก็ได้


ประโยชน์ของการประกอบพิธีไหว้ครูตามประเพณีที่ถูกต้อง
๑.ได้รักษาประเพณีอันเป็นวัฒนธรรมอันดีของไทยไว้ให้ยืนยงต่อไป
๒.ได้แสดงออกซึ่งความกตัญญูกตเวทีอันเป็นเครื่องหมายของคนดี เป็นแบบอย่างส่งเสริมให้ศิษย์รุ่นต่อไป
๓.เป็นการบำรุงขวัญของผู้ที่ได้ร่วมในการพิธีไว้ครูและครอบ
๔.เป็นการเสริมความสามัคคีระหว่างดุริยางคศิลปินด้วยกัน


ข้อมูลจากของ หนังสือ “ดนตรีไทย”แต่งโดย ครูมนตรี ตราโมท

.....อันดวงจิตของครูผู้สอนสั่ง

นั้นมุ่งหวังให้ศิษย์สัมฤทธิ์ผล

ขจัดมืดโมหะในกมล

เพื่อได้ยลแสงสว่างหนทางไกล

มีเมตตากรุณาอุตสาหะ

ไม่เลยละชี้แจงแถลงไข

เห็นศิษย์เขลาเศร้าทรวงด้วยห่วงใย

เห็นศิษย์ไววิทยาปรีดาเอย

ครูมนตรี ตราโมท ผู้ประพันธ์